1.     การทำกำไรจากอัตราการสนับสนุนเงินทุน (Funding Rate Arbitrage) คืออะไร

เพื่อตรึงราคาสัญญาซื้อขายล่วงหน้าไว้กับราคาซื้อขายทันที ตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้าแบบต่อเนื่องของสกุลเงินดิจิทัลจึงมีกลไกอัตราการสนับสนุนเงินทุนขึ้นมา ตามกลไก หากตลาดอยู่ในภาวะกระทิงและกระทิงครองตลาด ราคาสัญญาซื้อขายล่วงหน้าแบบต่อเนื่องจะสูงกว่าราคาซื้อขายทันที พร้อมอัตราการสนับสนุนเงินทุนเป็นบวก ซึ่งหมายความว่าด้านผู้เสนอราคาซื้อจะต้องชำระค่าธรรมเนียมการสนับสนุนเงินทุนให้กับด้านผู้เสนอราคาขาย ซึ่งก็จะตรงข้ามกันเมื่ออัตราการสนับสนุนเงินทุนเป็นลบ โปรดดูกฎโดยละเอียดด้านล่าง: 

เมื่ออัตราการสนับสนุนเงินทุนเป็นบวก ผู้ถือสถานะ Long (ผู้ซื้อสัญญา) จะต้องจ่ายค่าธรรมเนียมการสนับสนุนเงินทุนให้กับผู้ถือสถานะ Short (ผู้ขายสัญญา) เมื่ออัตราการสนับสนุนเงินทุนเป็นลบ ผู้ถือสถานะ Short (ผู้ขายสัญญา) จะต้องจ่ายค่าธรรมเนียมการสนับสนุนเงินทุนให้กับผู้ถือสถานะ Long (ผู้ซื้อสัญญา) 

โปรดทราบ: การชำระค่าธรรมเนียมการสนับสนุนเงินทุนของ AscendEX จะมีขึ้นทุก 8 ชั่วโมง ที่เวลา 0:00 น. UTC, 8:00 น. UTC และ 16:00 น. UTC 

เพราะฉะนั้น ในทางทฤษฎีโดยไม่คำนึงถึงความเสี่ยงจากความผันผวนของราคาแล้ว โทเคนที่ถือสถานะอยู่ที่มีอัตราการสนับสนุนเงินทุนอยู่ในระดับสูงอย่างต่อเนื่องก็อาจได้รับผลตอบแทนที่สูงกว่า กล่าวอีกนัยหนึ่งคือ หากโทเคนมาพร้อมกับอัตราการสนับสนุนเงินทุนที่สูงและคงอยู่เป็นเวลานาน นักลงทุนจะสามารถได้รับประโยชน์จากการถือโทเคนต่อไปโดยใช้ประโยชน์จากกลไกอัตราการสนับสนุนเงินทุน 

ยกตัวอย่างสัญญาซื้อขายล่วงหน้าแบบต่อเนื่องของ OMI อัตราการสนับสนุนเงินทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้าแบบต่อเนื่องของ OMI จะยังคงเป็นบวกในระดับสูงเป็นเวลานานตามประวัติอัตราการสนับสนุนเงินทุนของสัญญาซื้อขายล่วงหน้าแบบต่อเนื่องบน AscendEX ซึ่งหมายถึงผู้ใช้สามารถสร้างรายได้จากค่าธรรมเนียมการสนับสนุนเงินทุนโดยเพียงแค่ถือสถานะ Short ของ OMI

แต่สิ่งสำคัญที่ควรทราบคือกลยุทธ์การทำกำไรข้างต้นไม่ได้พิจารณาถึงความเสี่ยงจากความผันผวนของราคา ตามทฤษฎี แม้นักลงทุนอาจได้รับประโยชน์จากค่าธรรมเนียมการสนับสนุนเงินทุนโดยเพียงแค่ถือสถานะ Short ของ OMI แต่ก็จะขาดทุนจากการถือสถานะนั้นเมื่อแนวโน้มของตลาดไม่เป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้แต่แรก คือเมื่อราคา OMI ปรับตัวขึ้น นั่นเอง เพื่อป้องกันความเสี่ยง นักลงทุนจำเป็นต้องซื้อ OMI ในตลาดซื้อขายทันทีไว้เท่า ๆ กันหรือถือสถานะ Long ของสินทรัพย์ที่มีมูลค่าเท่ากันในตลาดมาร์จิ้น

 

2.     กลยุทธ์หลักของการทำกำไรจากอัตราการสนับสนุนเงินทุน

หากต้องการเชี่ยวชาญในการทำกำไรจากอัตราการสนับสนุนเงินทุน มีสองประเด็นสำคัญที่นักลงทุนควรคำนึงถึง:

1)     เลือกโทเคนที่มีอัตราการสนับสนุนเงินทุนสูงและคงอยู่นาน

ในการทำกำไรจากค่าธรรมเนียมการสนับสนุนเงินทุน นักลงทุนควรเลือกโทเคนที่มีอัตราการสนับสนุนเงินทุนสูงและคงอยู่เป็นเวลานาน

โปรดทราบ: ก่อนดำเนินการทำกำไรจากอัตราการสนับสนุนเงินทุน คุณสามารถดู ข้อมูลอัปเดตล่าสุด และ ข้อมูลประวัติ เกี่ยวกับอัตราการสนับสนุนเงินทุนของโทเคนสัญญาซื้อขายล่วงหน้าทั้งหมดบน AscendEX สำหรับอ้างอิงได้

2)     ป้องกันความเสี่ยงจากความผันผวนโดยการถือสถานะตรงข้ามในตลาดซื้อขายทันที/มาร์จิ้น

เพื่อลดความเสี่ยงจากความผันผวนของราคา ผู้ใช้ที่ใช้การทำกำไรจากอัตราสนับสนุนเงินทุนสำหรับการซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้าแบบต่อเนื่องจำเป็นต้องถือสถานะตรงข้ามที่มีมูลค่าเท่ากันในตลาดซื้อขายทันทีหรือมาร์จิ้นเพื่อป้องกันความเสี่ยงในการซื้อขาย จึงจะทำให้ได้รับผลกำไรในระยะยาว

 

3.     ขั้นตอนในการทำกำไรจากค่าธรรมเนียมการสนับสนุนเงินทุน

พูดง่าย ๆ ผู้ใช้ควรถือสถานะในการซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้าแบบต่อเนื่องและสถานะตรงกันข้ามที่มีมูลค่าเท่ากันในการซื้อขายทันที/มาร์จิ้น

1)   การทำกำไรจากค่าธรรมเนียมการสนับสนุนเงินทุน - การป้องกันความเสี่ยงด้วยสัญญาซื้อขายล่วงหน้าแบบต่อเนื่อง/การซื้อขายทันที 

ก. ซื้อสินทรัพย์แบบที่มีการซื้อขายทันที

ข. เปิดสถานะ Short ของสินทรัพย์ที่มีมูลค่าเท่ากันในตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้าแบบต่อเนื่อง

ค. เลือกเวลาที่จะปิดสถานะและขายสินทรัพย์แบบซื้อขายทันทีเพื่อรับผลกำไร 

ยกตัวอย่างสัญญาซื้อขายล่วงหน้าแบบต่อเนื่องของ OMI สมมติว่าอัตราการสนับสนุนเงินทุนของ OMI อยู่ที่ 0.422% และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 0.566% ผู้ใช้ A ซื้อ OMI มูลค่า 10,000 USDT ในการซื้อขายแบบทันที ในขณะที่เปิดสถานะ Short ของ OMI ด้วยมูลค่าเท่ากันในการซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้าแบบต่อเนื่อง ในการสนับสนุนเงินทุนช่วงถัดไป คาดว่าผู้ใช้จะได้รับ 10,000 USDT*0.556%=55.6 USDT สมมติว่าอัตราการสนับสนุนเงินทุนจะอยู่ที่ระดับนี้เป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์ ซึ่งหมายความว่าผู้ใช้จะได้รับ 55.6*3*7=1167.6 USDT จากการถือสถานะนั้นหนึ่งสัปดาห์ (โปรดทราบ: เพื่อให้เข้าใจง่ายขึ้น กรณีนี้จึงไม่ได้นำเรื่องการเปลี่ยนแปลงมูลค่าสถานะบัญชีที่เกิดจากการเคลื่อนไหวของราคาในช่วงระยะเวลาถือครองมาพิจารณาด้วย) 

โปรดทราบ: จะสามารถป้องกันความเสี่ยงได้ก็ต่อเมื่อสถานะในการซื้อขายทันทีและสัญญาซื้อขายล่วงหน้ามีมูลค่าเท่ากัน  

2)   การทำกำไรจากค่าธรรมเนียมการสนับสนุนเงินทุน - การป้องกันความเสี่ยงด้วยสัญญาซื้อขายล่วงหน้าแบบต่อเนื่อง/การซื้อขายทันที 

เนื่องจากการซื้อขายมาร์จิ้นเกี่ยวข้องกับอัตราดอกเบี้ย ผู้ใช้จำเป็นต้องพิจารณาถึงผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากอัตราดอกเบี้ยในขณะที่ใช้วิธีการทำกำไรจากอัตราการสนับสนุนเงินทุน

ก.     เมื่ออัตราการสนับสนุนเงินทุนเป็นบวกและมากกว่าผลรวมของอัตราดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรม ด้านผู้เสนอราคาขายจะได้รับค่าธรรมเนียมการสนับสนุนเงินทุนจากด้านผู้เสนอราคาซื้อ นั่นคือ การซื้อสินทรัพย์ในการซื้อขายมาร์จิ้นในขณะที่เปิดสถานะ Short ของสินทรัพย์ด้วยมูลค่าเท่ากันในการซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้าแบบต่อเนื่อง

ข.     เมื่ออัตราการสนับสนุนเงินทุนเป็นลบและมากกว่าผลรวมของอัตราดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรม ด้านผู้เสนอราคาซื้อจะได้รับค่าธรรมเนียมการสนับสนุนเงินทุนจากด้านผู้เสนอราคาขาย นั่นคือ การขายสินทรัพย์ในการซื้อขายมาร์จิ้นในขณะที่เปิดสถานะ Long ของสินทรัพย์ด้วยมูลค่าเท่ากันในการซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้าแบบต่อเนื่อง 

โดยรวมแล้ว เมื่อพิจารณาถึงต้นทุนการทำธุรกรรม ความแตกต่างระหว่างอัตราการสนับสนุนเงินทุน (อัตราลอยตัว) ในการซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้าแบบต่อเนื่องและอัตราค่าธรรมเนียมคงที่เป็นกุญแจสำคัญของยอดกำไรที่คุณจะสามารถทำได้จากการซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้าแบบต่อเนื่องและการซื้อขายมาร์จิ้นทันที เนื่องจากอัตราการสนับสนุนเงินทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้าไม่เปลี่ยนแปลง เพื่อให้ได้กำไรมาก ผู้ใช้จะต้องลดอัตราค่าธรรมเนียมคงที่ คือลดอัตราดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรม นั่นเอง AscendEX ใช้ระบบอัตราค่าธรรมเนียมแบบระดับชั้น ยิ่งระดับบัญชีสูง อัตราค่าธรรมเนียมก็จะยิ่งต่ำลง ผู้ใช้สามารถดูระบบอัตราค่าธรรมเนียมของ AscendEX เพื่อพัฒนาการทำกำไรจากอัตราการสนับสนุนเงินทุนที่เหมาะสมเพื่อให้ได้ผลตอบแทนที่สูงขึ้นได้

 

4.     หมายเหตุเกี่ยวกับการทำกำไรจากอัตราการสนับสนุนเงินทุน:

1)     อัตราทดต่ำกว่าเพื่อหลีกเลี่ยงการชำระบัญชี เนื่องจากราคาสัญญาซื้อขายต่อเนื่องเคลื่อนไหวตีคู่ไปกับการเคลื่อนไหวของราคาที่มีการส่งมอบทันทีขณะซื้อขาย (Spot Price) จึงมีความเสี่ยงที่ต่ำกว่าหรือแม้กระทั่งไม่มีความเสี่ยงในการทำกำไรจากอัตราการสนับสนุนเงินทุน อย่างไรก็ตาม ผู้ใช้ควรยังคงต้องตระหนักถึงความเสี่ยงในการชำระบัญชีที่เกิดจากความผันผวนของราคาอย่างมาก

2)    วิจัยตลาดและระมัดระวังในการเลือกโทเคน ในการทำกำไรจากค่าธรรมเนียมการสนับสนุนเงินทุน ผู้ใช้จะต้องทำการวิจัยตลาดของตนเองเกี่ยวกับสินทรัพย์ที่จะซื้อและอัตราการสนับสนุนเงินทุนของสินทรัพย์เหล่านั้น เพื่อเลือกโทเคนเหมาะ ๆ ที่มีอัตราการสนับสนุนเงินทุนสูง ๆ และคงอยู่เป็นเวลานาน

3)     ลงทุนอย่างเหมาะสมเพื่อลดความเสี่ยงในการซื้อขาย อาจก้าวพลาดได้หากพรวดพราดลงทุนไปเยอะ ๆ ในโทเคนขนาดเล็กที่มีความลึกของตลาดที่จำกัด

4)     อย่าเปลี่ยนสินทรัพย์เพื่อการลงทุนและปรับสถานะบ่อย การปรับสถานะและการเปลี่ยนสินทรัพย์เพื่อการลงทุนเพื่อป้องกันความเสี่ยงจะทำให้ผลกำไรที่ได้รับไม่ครอบคลุมต้นทุนการทำธุรกรรม